(1 Vote)

รู้จักกับ Web Analytics

รู้จักกับ Web Analytics

ลูกค้าของคุณมีอาการคันและเว็บไซต์ของคุณจะต้องสามารถที่จะเกาจุดที่คันให้ได้ 

ความรู้วิธีการทำให้ได้ผลดังกล่าว คือกุญแจสำคัญในการทำให้ผู้เข้าชมมีกิจกรรมบน เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากการวิเคราะห์เว็บเพื่อที่จะเพิ่มรายได้จากการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก การปรับปรุงการคลิกผ่านการส่งเสริมการขายโดยอีเมล หรือแม้กระทั่งการเพิ่มการจัดอันดับเครื่องมือค้นหาของคุณ มีความเป็นไปได้ที่ทำได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 รูปแบบการทำงานพื้นฐานของ Web Analytics คือการเฝ้าดูกระแสจราจรบนเว็บไซต์ของคุณ ข้อมูลข่าวสารที่รวบรวมได้สามารถแสดงให้คุณเห็นว่าผู้มาเยี่ยมเยือนคุณคือใคร และมาจากที่ใด และได้ทำอะไรกับเว็บไซต์ของคุณ นานเท่าไหร่ที่พวกเขาติดอยู่ในเว็บไซต์ของคุณก่อนจะออกไป โปรแกรมที่ดีที่สุดที่ใช้ในการการวิเคราะห์เว็บสามารถบอกคุณได้แล้วอย่างน้อยก็บางส่วน  โดยระบบโปรแกรมสามารถคำนวณผลตอบแทนการลงทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการรณรงค์และตรวจสอบเว็บไซต์สื่อทางสังคมเช่น Twitter และ Facebook สำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของคุณ

Web Analytics คืออะไร?

Web Analytics Association ได้นิยามไว้ว่า “เป็นระบบการติดตามวัตถุวัถุประสงค์ การรวบรวม การตรวจวัด การจัดทำรายงาน การวิเคราะห์เชิงปริมาณของข้อมูลทางอินเตอรเนต เพื่อให้เกิดการปรับแต่ง และเป็นสิ่งเริ่มต้นทางการตลาด”   

               ส่วน Web Analytics 2.0 ได้นิยาม Web Analytics ไว้ว่า

  1. เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณจากเว็บไซต์ของคุณและการแข่งขัน
  2. เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการปรับปรุงต่อประสบการณ์ออนไลน์ของลูกค้าคุณรวมทั้งกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
  3. ซึ่งจะแปลงไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

Web analytics 2.0 เป็นข้อมูลที่ส่งมอบและแสดงแบบ 3-tiered รวมทั้งเป็นบริการวิเคราะห์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดย Tier แรกเป็นตัวข้อมูล ที่แสดงปริมาณกระแสจราจร จำนวนของ page ที่ถูกเยี่ยมชม จำนวนของ Click และอื่นๆ บนเว็บไซต์ของคุณ ส่วน Tier ที่สอง คือสิ่งที่คุณได้ทำต่อข้อมูลนั้น หรือความพยายามของคุณที่จะนำข้อมูลที่รวบรวมได้ผ่านบริการนี้ ไปที่ลูกค้าของคุณได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือใหม่ เพื่อให้ประสบการณ์ผ่านเว็บไซต์ของเขาหล่านั้นมีความหมายและตื่นตา และ Tier สุดท้ายได้แก่  และ Tier สุดท้ายคือวิธีการที่จะทุกวงการกลับมารวมกันเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมของคุณไม่เพียง แต่ออนไลน์และออฟไลน์ โดยตัวของข้อมูลเองจะชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่คุณได้ทำไว้  

Web analytics ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ใช้ ตรวจวัดกระแสจราจรของเว็บเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจและการวิจัยทางการตลาด รวมทั้งการประเมินและปรับปรุงประสิทธิผลของเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบน Web Analytics ยังสามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถตรวจวัด  นอกจากนี้ Web Analytics ยังช่วยให้องค์กรธุรกิจ สามารถตรวจวัดผลลัพธ์จากการโฆษณาแบบดั้งเดิมที่ใช้สื่อสิ่งพิมพ์และการออกอากาศทางทีวีอีกด้วย มันช่วยให้มีการกระมาณการณ์ว่า กระแสจราจรบนเว็บเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด หลังจากมีการจัดทำแคมเปญการโฆษณาใหม่ๆขึ้นมา Web Analytics จะข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับจำนวนของผู้เข้าเยี่ยมชมบนเว็บไซต์ของคุณ และจำนวนของ Page ที่ผ่านสายตาของผู้เข้าเยี่ยมชมเหล่านั้น และช่วยให้คุณสามารถวัดปริมาณกระแสจราจร และแนวโน้มของความนิยมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยทางการตลาดของคุณ    

โดยภาพรวมแล้ว Web Analytics มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่แบบ Off-site และแบบ On-site โดยแบบ Off-site Web Analytics เป็นการตรวจวัดและวิเคราะห์ Web โดยไม่คำนึงว่าคุณเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งจะรวมถึงการตรวจวัดผู้ชมที่มีศักยภาพและเป็นกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ การแบ่งปันความเห็น การแบ่งปันเสียงสะท้อนจากลูกค้า ซึ่งเกิดขึ้นบนอิเตอรเนตโดยรวม

               ส่วน On-site Web Analytics เป็นการตรวจวัดพฤติกรรมของผู้เข้ามาเยี่ยมเยือนบนเว็บของคุณ แรงขับดันและการแปลง ตัวอย่างเช่น ระดับการจัดซื้อใน Web page ต่างๆ ซึ่งมีสินค้าหลากหลายของคุณ จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมด้านประสิทธิภาพของเว็บเพจ ข้อมูลนี้ จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับตัวชี้วัด ดัชนีวัดผล และตัวบ่งบอกประสิทธิภาพ หรือ KPI ซึ่งเป็นบริการหลักบน Web Analytics เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์หรือการส่งเสริมทางการตลาด โดยอาศัยปริมาณการตอบสนองของผู้เข้าเยี่ยมชม  

Google Analytics เป็น Web Analytics ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ถึงแม้ว่าเครื่องมือใหม่นี้ มีการเพิ่มเติมมากขึ้นในอีกระดับหนึ่ง เช่น Heat Map ( Heat map เป็นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของกราฟิกที่แสดงค่าต่างๆในข้อมูลถูกแสดงออกเป็นสีสรรต่างๆ และ Session replay (ใช้แสดงข้อมูลข่าวสารที่ได้บันทึกไว้ก่อนหน้านี้) ในอดีต Web Analytics ถูกใช้เป็นการวัดปริมาณผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีผู้ผลิตเครื่องมือที่ทำให้ Web Analytics เป็นทั้งแบบ on-site และ off-site

เหตุใด Web Analytics จึงมีความสำคัญ?

               เนื่องจากมีคู่แข่งขันบนออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแรงผลักดันที่จะต้องติดตามและตรวจวัดประสิทธิ์ภาพของเว็บไซต์ โดยการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ คุณจะสามารถตรวจพบปัญหาและโอกาสต่างๆมากมาย และทำให้มีความจำเป็นต้องจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และเพื่อส่งเสริมการตลาดบนอินเตอรเนต

               ประการแรก คุณอาจต้องตั้งคำถามว่า “อะไรคือประสิทธิภาพของเว็บไซต์?” คำตอบอยู่ที่ประเภทของเว็บไซต์และเป้าหมายของการจัดตั้ง นั่นหมายความว่า ก่อนที่คุณจะตรวจวัดว่าเว็บไซต์ของคุณดีเลิศสักเพียงใด คุณจะต้องนิยามปัจจัยความสำเร็จโดยการใช้กฎเกณฑ์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์

ตัวอย่างเช่น เป้าหมายของบล็อกก้าวไปถึงจำนวนของเพจที่ถูกอ่าน และจำนวนของโฆษณาบนเพจเหล่านั้น หรือเพื่อให้ได้รับสมาชิกจดหมายข่าว / RSS  สำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซบนเว็บ เราอาจจะวัดบางสิ่งอย่างเช่นจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่ผู้เข้าเยี่ยมชม นำมันไปไว้ที่ Wish List รวมทั้งปริมาณของการอ่านข้อความโฆษณาของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเติมรายการผลิตภัณฑ์เข้าไปไว้ใน Shopping Cart สิ่งเหล่านี้ เราเรียกว่า Micro conversion ซึ่งจะนำไปสู่การซื้อขายจริง เราเรียกว่า Macro Conversion จากตัวอย่างนี้ก็คือ การขายที่เกิดขึ้นจริง

Web Analytics ประกอบด้วยโครงร่างของการทำงานดังนี้

  • การตรวจวัด
  • การจัดทำรายงาน
  • การวิเคราะห์
  • การปรับแต่งประสิทธิภาพ

ภาพที่ 1 แสดงวงจรการทำงานของ Web Analytics

 

               การวิเคราะห์แบบนี้จะช่วยให้มีการประเมินผลของกิจกรรมของเว็บและประสิทธิภาพ การทำงานที่เกี่ยวกับการกรองการตลาดบนออนไลน์ ตัวอย่างขั้นพื้นฐานโดยใช้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราจะเป็น: การเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Awareness) - View สินค้า> (Interaction) -> Add to cart (Desire) - ซื้อ> ($ การกระทำ) – แน่นอนสามารถมีได้หลายขั้นตอนมากกว่านี้ ด้วยเครื่องมือ Web Analytics ในปัจจุบัน เราสามารถตรวจวัดเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานที่เข้าถึงเพจต่างๆก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อ ซึ่งเราสามารถหาโซลูชั่นเพื่อปรับปรุงเพจต่างๆที่ลูกค้ามองข้าม

ภาพที่ 2 แสดงกระบวนการวิเคราะห์เว็บแบบหนึ่ง

 

ใครควรใช้ Web analytics?

               ผู้ใดก็ตามที่หวังจะใช้ World Wide Web เพื่อสร้างรายได้ก็ควรใช้ Web Analytics ปัจจุบัน   ผู้ให้บริการ E-commerce รายใหญ่หลายแห่ง ข้อมูลจากการวิเคราะห์เว็บนี้ เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์แก่เว็บไซต์ของพวกเขา นักการตลาดพันธมิตรใช้การวิเคราะห์เพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้จากพื้นที่ของเว็บ รวมทั้งตรวจว่าดูว่า Keyword แต่ละคำได้สร้างประโยชน์อย่างไรบ้าง? 

พิจารณาคำถามต่อไปนี้เพื่อบ่งชี้ว่าคุณควรลงทุนใช้เครื่องมือ Web Analytics หรือไม่?

  • Web site ของฉันคือช่องทางสร้างรายได้หรือไม่?
  • ฉันมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมมากก็จริง แต่การเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ต่ำ
  • ฉันได้ติดตามแคมเปญสร้างการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนลิงค์หรือไม่?
  • ฉันได้เกี่ยวข้องกับหรือมีส่วนร่วมกับการตลาดผ่าน E-Mail หรือไม่?  
  • ฉันมีแผนการออกแบบเว็บไซต์ใหม่หรือไม่?

เพียงแค่คำถามใดคำถามหนึ่งที่คุณตอบว่าใช่ ก็หมายความว่าคุณสมควรใช้ Web Analytics แล้ว และข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า คู่แข่งขันของคุณได้ใช้ Web Analytics ดังนั้น คุณอาจสูญเสียโอกาสสำคัญทางการตลาด ที่คุณอุตส่าห์พยามสร้างขึ้นเพื่อให้ได้กระแสการตอบรับจากลูกค้าของคุณ 

เหตุใดที่คุณควรใช้ Web Analytics

               ต่อไปนี้เป็นเหตุผลสิบประการที่น่าสนใจ ที่จะใช้ Web Analytics

  1. คุณสามารถระบุว่า Site Referrer ใดสร้างการจราจรมากที่สุดรวมทั้งรายได้ คำว่า Site Referer หรือ เพจอ้างอิง เป็น URL ของเว็บเพจก่อนหน้านี้ จากการเชื่อมโยงที่ตามมา นี้เป็นวิธีที่ดีในการระบุว่าเจ้าของเว็บไซต์ที่คุณควรจะส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์กับและคนที่คุณสามารถที่จะลืมเขาไปได้  
  2. คุณสามารถระบุว่าสินค้าใดสะดุดตาผู้ซื้อ หรือสนใจในรายละเอียดมากที่สุด รวมทั้งอัตราส่วนของการจัดซื้อ วิธีการนี้ จะช่วยให้คุณระบุได้ว่า สินค้าใดที่ควรนำออกไปจากตลาด หรือพื้นที่ข่าวสารใดในเว็บของคุณไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่มันควรจะเป็น และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
  3. คุณจะเห็นว่าการส่งเสริมการขายแบบใดบ้าง ที่ประสบผลสำเร็จ และแบบใดที่ล้มเหลว คุณสามารถคัดแนวทางส่งเสริมการขายที่ไม่ประสบผลสำเร็จออกไป และจัดทำใหม่ 

ภาพที่ 3 ตัวอย่างหน้าจอผลลัพธ์จากการวิเคราะห์

 

  1. คุณสามารถวัดผลกระทบของช่องออนไลน์กับธุรกิจโดยรวมของคุณ

        ถ้าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณสามารถสร้างรายได้มากกว่าธุรกิจอิฐและปูนของคุณแล้วละก้อ มันอาจจะถึงเวลาที่จะปิดร้านค้าของคุณแล้วหันมาเน้นความพยายามของคุณทั้งหมดบนเว็บ ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีการสร้างลูกค้ามากขึ้นกว่าการโฆษณาในรูปแบบอื่นแล้วคุณอาจต้องการที่เวลาที่จะทุ่มเทไปกับการทำงานส่วนนี้มากขึ้น 

        ในทางกลับกัน หากเว็บไซต์ของคุณไม่ค่อยมีผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ ด้วยประการฉะนี้ คุณอาจต้องการพิจารณากลยุทธ์บางประการเพื่อเพิ่มพูนกระแสจราจร หรือแปลงกระแสจราจรที่คุณมีอยู่แล้ว โดยอาจเป็นไปได้ที่การออกแบบเว็บไซต์ ไม่ดีพอ เนื้อหามาสร้างความสนใจ หรือยังไม่มีนัยทางการตลาดที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ โปรแกรม Web Analytics ของคุณจะช่วยให้เบาะแสดังกล่าวแก่คุณได้    

  1. คุณจะค้นพบว่า ผู้เข้ามาเยี่ยมชมกลุ่มใดบ้างที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต เป็นสมาชิกติดตาม หรือผู้เข้ามาเป็นขาประจำ โดยข้อมูลเหล่านี้ คุณสามารถนำมาใช้เพื่อปรับแต่งนโยบาย และการส่งเสริมการตลาดเสียใหม่ 
  2. คุณสามารถวิเคราะห์กระแสของการกด Click จองผู้เข้ามาเยี่ยมชม ด้วยข้อมูลนี้ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอบนเว็บไซต์ของคุณใหม่ เช่นการจัดข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้มีอัตราเพิ่มของปฏิสัมพันธ์ที่ผู้เข้าเยี่ยมชม มีต่อคุณได้ และแน่นอน ผลที่ตามมาคือการเกิดอัตราของ Conversion เพิ่มขึ้น และ Conversion เกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อได้ทำความตกลงเกี่ยวกับการซื้อขายที่เกิดขึ้น หรือเปลี่ยนจากผู้เข้ามาเยี่ยมชมกลายเป็นผู้ซื้อ หรือเป็นการขอรับเป็นสมาชิก หรือผู้ติดตามข่าวต่อเนื่อง    
  3. คุณสามารถระบุโอกาสของการนำเสนอขายสินค้าอื่นๆแก่ลูกค้าในขณะเดียวกัน คุณใช้ข้อมูลนี้เพื่อเพิ่มยอดขายเช่นเดียวกันโดยการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันหรือผลิตภัณฑ์เสริมอื่น ๆ อเมซอนได้ปกป้องแนวคิดนี้ในพื้นที่ออนไลน์โดยใช้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นจำนวนมหาศาลและผ่านการวิเคราะห์แล้วเพื่อระบุและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

ภาพที่ 4 ตัวอย่างการนำเสนอสินค้าเสริมหรือที่เกี่ยวข้องอื่นๆของ amazon

 

  1. คุณสามารถตรวจสอบผลกระทบของการเพิ่มเนื้อหาใหม่ไปยังเว็บไซต์ ถ้าเนื้อหาใหม่ที่คุณเพิ่มเข้ามาจะทำให้ผู้เข้าชมอยู่ในเว็บไซต์ของคุณนานและ / หรือเพิ่มอัตรา Conversion ของคุณแล้ว ก็เป็นน่ายินดีที่สามารถสื่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคุณและผู้เยี่ยมชม แต่ถ้าเนื้อหาใหม่มีผลตรงข้ามคุณจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นโดยด่วน 
  2. สามารถติดตามดู keywords ใดบ้างที่ผู้เข้าเยี่ยมชม ได้ใช้เพื่อค้นหามากที่สุด เพื่อที่ว่าจะได้จัดทำผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อ keyword ดังกล่าวมาก
  3. ใช้ค้นหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณ ด้วยข้อมูลที่อยู่ในมือนี้คุณสามารถกำจัดข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ลูกค้าสูญเสียความศรัทธาในตัวคุณ เนื่องจาก การเชื่อมโยงเสียหายและเข้าสู่หน้าเว็บที่ไม่มีตัวตน

ความสำคัญของการทดสอบเปรียบเทียบ (Benchmarking)

               ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุน ลงแรง และเวลา รวมทั้งพลังงานไปกับการทดสอบเปรียบเทียบ   

คุณจะไม่ทราบเหตุใดที่คุณเดินทางมาได้ถึงทุกวันนี้ หากคุณไม่ได้บันทึกในสิ่งที่คุณทำมาในอดีต และปรียบเทียบกับในปัจจุบัน ก่อนที่คุณจะลงทุนเวลาและพลังงานของคุณ รวมทั้งเงินทอง เพื่อสร้างกระแสการตอบรับผลิตภัณฑ์จากลูกค้าของคุณ จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องจัดตั้งเป้าหมายเฉพาะบนพื้นฐานของค่าที่จะใช้ตรวจวัด ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการ ดังนี้

  • สร้างกระแสการตอบรับในระดับนานาชาติ : บันทึกจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมจากประเทศต่างๆ   รวมทั้งจำนวนของประเทศ  
  • เพิ่มกระแสจราจร ตลอดสัปดาห์ของคุณ : บันทึกค่าเฉลี่ยของผู้เข้ามาเยี่ยมชมในแต่ละวัน   

ภาษาที่ใช้สำหรับ Web Analytics

               เมื่อคุณได้เข้าสู่โลกของ Web Analytics คุณจะสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่า Web Analytics มีภาษาของตนเอง นอกจากนี้คุณยังอาจรู้สึกว่า ต้องจมอยู่ในวัฒนธรรมต่างชาติ ที่มีภาษาของมันเอง และมีคำที่คุณจะเห็นว่าแตกต่างจากคำแปลที่ปรากฏอยู่ในพจนานุกรม เช่น Hits  Traffic และ session เป็นต้น

               ตัวอย่างคำใหม่ๆที่ใช้ใน Web Analytics ได้แก่

  • Hits
  • Pageviews
  • Visits
  • Unique visitors
  • Referrers
  • Keywords และ keyphrases

เครื่องมือ Web Analytics ที่คุณสามารถใช้งานได้

สิ่งที่แตกต่างจากซอฟต์แวร์อื่นๆของ Web Analytics คือ การเลือกเครื่องมือ Web Analytics ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของแบรนด์เนมหรือแม้กระทั่งราคา แม้ว่าปัจจัยเหล่านั้นอาจมีส่วนในการตัดสินใจเลือกก็ตาม ที่แน่นอนก็คือ เครื่องมือทางซอฟต์แวร์ของ Web Analytics ในโลกของการวิเคราะห์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท 

  • Server-side: เครื่องมือวิเคราะห์แบบ Server-side ที่จะต้องติดตั้งลงบน Web Server และ Server-side ก็เป็นโซลูชั่นที่ให้ความสะดวกเนื่องจากส่วนใหญ่ได้ติดตั้งลงบน Server ของบริษัทผู้ให้บริการ Web Hosting อยู่แล้ว และคุณไม่ต้องทำอะไรมากมายนัก เพื่อที่จะใช้งาน  
  • Client-side: Client-side เป็นเครื่องมือที่ติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ของคุณ และ Software แบบ Client Side นี้จะช่วยให้คุณสามารถติดตามดู โดเมนต่างๆมากมายพร้อมกันด้วยเครื่องมือตัว้ดียวกัน อีกทั้งยังสามารถนำติดตัวไปได้ หากคุณต้องเปลี่ยนไปใช้บริการจากผู้ให้บริการ Hosting รายอื่นๆ    
  • Hosted solutions: Hosted solutions เป็นรูปแบบการจัดทำ hosting โดยผู้ให้บริการโดยมีการติดตั้งเครื่องมือลงบน Server ของผู้ให้บริการ รูปแบบ Hosted solutions นี้มีความอิสระจาก Web Server รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับ desktop ของคุณ แต่คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใช้งานรายเดือนสำหรับบริการนี้

สำรวจซอฟแวร์ประเภท Server-Side

แอพพลิเคชั่นแบบ Server-side ปกติจะมีการติดตั้งลงบน Server เดียวกันกับที่คุณใช้บริการ Web Hosting ไม่ว่าจะเป็นแบบ Shared หรือแบบ Dedicated แอพพลิชั่นของ Server-sideเพื่อวิเคราะห์ log files ในลักษณะข้อมูลดิบ หรือเป็นการจัดเก็บ Log File ทั่วไป ตามห้วงเวลาที่กำหนดไว้ โดยจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผู้เข้าชม เช่นเวลาของการเข้ามาชม ไฟล์ที่ผู้เข้าชมเข้าถึง สถานที่ๆผู้ชมเข้ามาใช้งาน และอื่นๆอีกมาก รูปแบบชอง Log มีหน้าตาดังนี้ 

ภาพที่ 5 ตัวอย่างของ Log File

 

Urchin Software Inc. เป็นบริษัทและเทคโนโลยีที่ Google ถือครองในปี 2005 และได้กลายมาเป็น Google Analytics ในเวลาต่อมา เป็นบริการ Web Analytics ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรของ Google เป็นโปรแกรม web analytics ที่สามารถดาวน์โหลดได้ และทำงานบน Server ทั้งที่เป็นระบบ Unix หรือ Windows โดย Server ดังกล่าว เป็น Server เดียวกันกับ Web Server

Urchin Software สามารถจัดสร้างรายงานโดยการประมวลผล Logfiles ของ Web Server และจัดว่าเป็น Software ประเภท Server Side ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างหน้าจอของ Urchin Software version 6   

ภาพที่ 6 ตัวอย่างหน้าจอ Profile ของ Erchin

 

ภาพที่ 7 ตัวอย่างหน้าจอใช้งานของ Erchin

 

Urchin เป็นเทคโนโลยีที่เหมือนกันกับ Google Analytics ความแตกต่างระหว่างการใช้งาน  Urchin คือองค์กรของคุณต้องการทรัพยากรสำหรับจัดเก็บข้อมูล Log และการประมวลผล โดย Urchin จะเสริมประสิทธิภาพของคุณด้วยรายงานเสริมที่ Google Analytic ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากวิธีการมีข้อจำกัด เรามาลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

รายงานเกี่ยวกับการเข้ามาเยือนที่ผ่านมา

สามารถติดตามดูผู้เยี่ยมชมแต่ละคน รวมทั้งเส้นทางต่างๆที่ผู้เยี่ยมชมเดินทางเข้ามา รวมทั้งเข้ามาด้วยการเชื่อมต่อใด และด้วยเหตุผลของความต้องการความเป็นส่วนตัว google ตั้งใจไม่ให้มีการติดตามที่มาของผู้เยี่ยมชมภายใต้ Google Analytics อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลที่รวบรวมได้ และการประมวลผลภายใต้การควบคุมของคุณ คุณจะมีอิสระที่จะทำสิ่งนั้น ภายใต้ Urchin ซึ่งผู้เข้ามาเยือนสามารถถูกติดตามได้    

  • รายงานเพจและรหัสที่แสดงสถานะความผิดพลาด
    สิ่งที่มากไปกว่าการรายงานจำนวนของเพจที่ผ่านสายตาผู้ชม (ดังที่ปรากฏใน Google Web Analytics) คือ Urchin สามารถรายงานความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในรูปแบบ รหัสแสดงความผิดพลาด อย่างไรก็ตาม หน้าที่การทำงานส่วนนี้ ปกติเป็นหน้าที่ของ Web Server ที่จะมีการรายงานโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว   
  • รายงานเกี่ยวกับ Bandwidth
    การจัดทำรายงานเกี่ยวกับ bandwidth จะช่วยให้คุณเห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าเยี่ยมชมคับคั่งสักเพียงใด    
  • การรายงานการล็อคอินเข้ามาของผู้เยี่ยมชม
    หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อที่สำหรับล็อคอินโดยเฉพาะ คุณจะได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานะและปริมาณ รวมทั้งชื่อของผู้ที่ทำการล็อคอินเข้ามา โดยรองรับมาตรฐานการทำงานของ Apache (.htaccess) หรือระบบการพิสูจน์สิทธิ์ใดๆที่มีการจัดเก็บชื่อผู้เข้ามาใช้งานใน logfile

เหตุใดที่คุณอาจต้องสนใจใช้ Urchin software ?

Urchin software มีบางสิ่งที่เหนือกว่า Google Analytics ตัวอย่างเช่น ข้อมูลถูกจัดเก็บไว้ใน Web Server ของคุณ แทนที่จะเป็นลักษณะ Stream จาก Google ซึ่งจะหมายถึงสิ่งต่อไปนี้   

  • การประมวลผลข้อมูลและการแปรรูปข้อมูล
    Urchin สามารถประมวลผลเมื่อใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น เอาสักหนึ่งชั่วโมง หรือทุกๆชั่วโมง คุณยังสามารถแปรรูปข้อมูลได้อีก เพื่อที่จะสร้างตัวกรองสำหรับผลย้อนหลังหรือเพื่อแก้ไขความผิดพลาด   
  • การจัดเก็บข้อมูลแบบไม่จำกัด
    Urchin สามารถเก็บและแสดงดูข้อมูลได้นานเท่าที่คุณต้องการ สำหรับ Google Analytics มีการจัดเก็บข้อมูลเต็มที่ไม่เกิน 25 เดือน
  • สามารถตรวจสอบโดย Third-Party

Urchin ยอมให้ข้อมูลของคุณถูกตรวจสอบได้โดย Third-Party สิ่งนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ขายเนื้อที่โฆษณาบนเว็บไซต์ของเขา โดยที่จุดประสงค์ของการตรวจสอบก็คือต้องการทราบจำนวนของผู้เข้ามาเยี่ยมชม และสร้างเครดิตให้กับผู้โฆษณา

  • Intranet และ Firewalls

Urchin ทำงานหลัง Firewall นั่นหมายความว่าเหมาะสำหรับ Intranet ขณะที่ Google Analytics page ไม่สามารถทำงานหลัง Firewall ซึ่งปิดกั้น

จุดขายของ server-side analytics

จุดขายของ Server-side Analytics มีอยู่หลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น  

  • สามารถ Access จากที่ใดก็ได้ : คุณสามารถแสดงดูประสิทธิภาพของเว็บคุณจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ หากเป็นแบบ Client Side เมื่อคุณติดตั้ง Software นี้บนคอมพิวเตอร์เครื่องใด ก็จะยึดติดกับคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น หากคุณต้องการดูสถานะของเว็บจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้งาน เพื่อติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์อื่นๆ  
  • สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว : ระบบ Server-side applications จะสามารถแยก Log File บน Web Server ของคุณในช่วงเวลาตามปกติ หรือเวลาใดก็ตาม ตามที่คุณต้องการ เนื่องจาก Software นี้ทำงานทุกอย่างให้กับคุณ ดังนั้น คุณเพียงแต่ต้องการล็อคอินเข้าไปที่ Application เท่านั้น  
  • ฟรีและมีอิสระที่จะใช้งาน : จุดขายที่สำคัญของ Software ประเภท Server-side Analytics ได้แก่ของฟรี รวมทั้งมีความยืดหยุ่น
  • ความน่าเชื่อถือ : ข้อมูลจาก Server-side application มาจาก Server Log ของคุณ โดย Web Server จะบันทึกแต่ละครั้งที่มีการ Access เข้ามา ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและมีความยืดหยุ่น เหตุที่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากว่าข้อมูลมาจาก Log File ของ Server นั่นเอง ซึ่งจะมีการบันทึกทุกไฟล์ (เพจ ภาพ เอกสารและอื่นๆ) ที่ผู้เยี่ยมชมเข้ามาเรียกดู ซึ่งต่างจาก Hosted Application ที่ต้องขึ้นกับ Code ซึ่งวางไว้อยู่ด้านล่างของ Web page เพื่อติดตามดูกิจกรรมของผู้เข้ามาเยือน    
  • มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า : ภายใต้ server-side analytics คุณไม่ต้องไปกังวลเกี่ยวกับคู่แข่ง จะมองเห็นสมบัติอันล้ำค่าของคุณ เนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บแบบ In-house   
  • กรณีที่ Site เกิดล้มเหลว : Server-side software จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความล้มเหลวที่ผู้มาเยือนไม่สามารถร้องขอข้อมูล แต่สำหรับ Client-side software จะบอกคุณแต่เพียงว่า Page นั้นได้ถูกเรียกใช้งานได้ตามปกติเท่านั้น   
  • มี Log File ที่ได้มาตรฐาน : เนื่องจากข้อมูลอยู่บน Server ของคุณ เป็นเรื่องง่ายที่จะสับเปลี่ยนจากดปรแกรมหนึ่งไปสู่อีกโปรแกรมหนึ่ง ตามที่เห็นว่าเหมาะสม หรือใช้โปรแกรมหลายตัวที่มีคุณลักษณะการทำงานต่างกันทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอข้อมูลได้     

จุดด้อยของ Server-side

         แน่นอนที่เครื่องมือแบบ Server-side จะมีจุดด้อยอยู่บ้าง ต่อไปนี้เป็นจุดด้อยของ Server-side

ปัญหาเนื้อที่จัดเก็บข้อมูล

เนื่องจากเครื่องมือวิเคราะห์แบบ Server-side จัดเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากบน Web Server หากคุณมีแผนที่จะ Hosting Web Server ที่จำกัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล วิธีนี้ไม่เวอรค์แน่นอน เนื่องจากการย้อนกลับไปดูข้อมูลในอดีต เป็นเรื่องจำเป็น 

ปัญหาการพกพา

หากการใช้บริการ Hosting Web เป็นแบบ Shared อย่างเดียว และคุณต้องการเปลี่ยนไปใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่น คุณจะมีปัญหาที่คุณจะไม่สามารถนำเอาข้อมูลอย่างเช่น log File ติดตัวไปด้วย หากคุณไม่สามารถทำอะไรได้กับ Web Server ของคุณ คุณอาจต้องเปลี่ยนไปใช้ Client-side หรือ Hosted Solution แทน  

ความจำเป็นต้องพึ่งพาคนดูแล

ไม่ว่า เว็บไซต์ของคุณจะเป็นแบบ Shared หรือ Dedicated ก็ตาม ความผิดพลาดในการทำงานสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น Hard Drive ไม่ทำงาน หรือค่าคอนฟิกกูเรชั่นเกิดความผิดพลาด นอกจากนี้ เนื้อที่จัดเก็บข้อมูลตามที่ตกลงกันไว้กับผู้ให้บริการ อาจเต็มเสียก่อน เนื่องจากขนาดของ Log File จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจำเป็นต้องมีผู้ดูแลในส่วนนี้ 

การที่จะใช้งาน Server-side analytics applications ได้นั้นจะต้องมีการติดตั้งและตั้งค่าคอนฟิกกูเรชั่นที่มีความซับซ้อน และต้องการผู้ดูแลที่มีความรู้ความชำนาญ หากผู้ให้บริการ Hosting ของคุณไม่มีบริการเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวฟรี การติดตั้ง แอพพลิเคชั่นประเภท Server-side บน Server แบบ Shared เป็นทางเลือกที่ไม่เหมาะสม โดยทั่วไป Client ไม่ได้รับสิทธิ์ที่จะติดตั้งโปรแกรม บน Server แบบ Shared ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลความปลอดภัย รวมทั้งปัญหาเรื่องของประสิทธิภาพที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อ Server ที่มีหลายๆคนเช่าใช้พื้นที่บริการอยู่    

สำรวจซอฟแวร์ประเภท Client-side  

บางครั้งเราเรียกการทำงานของ Software ประเภทนี้ว่า Desktop Solution เนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือการวิเคราะห์นี้จาก Desktop 

รักษาดูแลการควบคุมด้วย client-side analytics

Client-side analytics สามารถสร้างความสนใจแก่เจ้าของเว็บไซต์ ด้วยเหตุผล 3 ประการดังนี้

  • Application ถูกติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน  
  • ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ สามารถนำมาแสดงได้ทันที 
  • ข้อมูลการวิเคราะห์สามารถเข้าถึงได้แม้ว่าขณะนั้น ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอรเนต 

Client-side analytics ยังให้ประโยชน์แก่คุณมากกว่านี้ เนื่องจากตัวซอฟแวร์เองจะยอมให้คุณเก็บรักษา Log File ดั้งเดิมไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ และจัดเก็บมันไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณแบบแยกจากกันโดยอิสระจาก Web Host และผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล   

สามารถบริหารจัดการหลายๆโดเมน  

หากคุณมีเว็บไซต์มากกว่าหนึ่ง การใช้ Client Side Web Analytics เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากตรงที่สามารถบริหารจัดการโดเมนหลายแห่งได้ และการติดตามดูหลายๆโดเมนด้วย Server-side Analytics เป็นเรื่องยาก แทนที่จะบังคับให้คุณต้องดูข้อมูลที่มีค่าจากหลายๆที่ แอพพลิเคชั่นแบบ Client-side จะช่วยให้คุณสามารถดูข้อมูลทางสถิติของโดเมนต่างๆจากศูนย์กลาง และสามารถจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดได้    

อะไรที่ผู้ให้บริการ Host สามารถนำเสนอบริการต่อคุณ?

มีการประมาณการณ์ไว้ว่า กว่า 90% ของเว็บไซต์ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีการติดตั้งบน Server แบบแบ่งใช้เนื้อที่ (Shared) นั่นคือ Web servers ที่ติดตั้งผู้ใช้บริการหลายๆไซต์ และอาจมีมากถึงพันเว็บไซต์ จะเห็นว่าความต้องการของคุณอาจมีข้อจำกัด เนื่องจากปัญหาทรัพยากรที่ผู้ให้บริการ Hosting มีไว้ให้

ผู้ให้บริการ Hosting ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์เว็บแบบฟรีค่าใช้จ่าย เช่น Webalizer (www.webalizer.com) AWStats (awstats.sourceforge.net) และ Urchin (www.google.com/analytics/urchin_software.html) หากผู้ให้บริการ Hosting เสนอเครื่องมือเหล่านี้แก่คุณแสดงว่า เว็บไซต์ของคุณได้มีระบบตรวจวัดและบันทึกการเข้ามาชมเว็บของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณทำได้คือเข้าไปดู เนื่องจากผู้ให้บริการ Hosting มีมากมาย และการให้บริการก็มีความแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนที่จะลงทะเบียน เพื่อขอรับบริการ

ภาพที่ 8 หน้าจอ Webalizer

 

แนะนำ 11 เครื่องมือวิเคราะห์เว็บ

  1. Google Analytics (Google.com) – ฟรี

               เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อเก็บสถิติเกี่ยวกับผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์และพฤติกรรมของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนเว็บไซด์ และยังติดตามดูประสิทธิภาพของแคมเปญการโฆษณา Adwords หรือโปรแกรมการโฆษณาอื่นๆ ด้วยข้อมูลนี้ จะทำให้ทราบว่าคีย์เวิร์ดใดที่ทำงานได้ดี รวมทั้งข้อความโฆษณาใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด และผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้ามา รวมทั้งออกจากเว็บไซต์ที่จุดใด

Google Analytics จะช่วยให้สามารถปรับปรุงผลการทำงานออนไลน์ของคุณง่ายขึ้นจัดสร้าง โฆษณาได้ดียิ่งขึ้น สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโปรแกรม การตลาด และสร้างการแปลง (Conversion) ของเว็บไซต์ที่สูงขึ้น

ความสามารถหลัก ของ Google Analytics

Google analytics แบ่งความสามารถตามจุดประสงค์การใช้งานได้ดังต่อไปนี้คือ

  • สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
  • สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
  • สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
  • สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร

จุดเด่นของ Google Analytics

  • ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย  
    คุณสามารถนำ Google Analytic ไปใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ประโยชน์ที่ Google จะได้รับจากการให้ใช้บริการฟรี การจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบฐานข้อมูลของ Google และให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้บรการเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) 
  • ติดตามการเข้าชมเว็บไซต์
    การติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ เป็นความสามารถในการตรวจสอบข้อมูล การเข้าชมเว็บไซต์ โดยจะแสดงรายละเอียดในเชิงสถิติ ได้แก่
    1.   รายละเอียดของ Search Engine ที่ใช้เข้ามายังเว็บไซต์
    2.   รายละเอียดของ Key Word ที่ใช้
    3.   รายละเอียดของสถานที่ๆแสดงว่าผู้เข้ามาเยี่ยมชมมาจากประเทศใด

ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้ สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ หรือการทำ SEO รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ได้อย่างถูกต้องต่อไป

  • ทำงานร่วมกับ Google AdWords
    Google Analytic สามารถทำงานร่วมกับ AdWords ซึ่งเป็นวิธีการโฆษณาใน Googleได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ของการคลิกที่โฆษณา
  • ใช้งานง่าย
    Google Analytic มีความสามารถในการออกแบบการแสดงผลข้อมูลต่างๆ บนหน้าเว็บเพจ โดยมีการอัพเดทข้อมูลอยู่ตลอดเวลา  เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานสำหรับผู้ใช้
  • ปรับใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
    Google Analytic สามารถติดตั้งใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน โดยการนำรหัสโปรแกรม (code)     ไปแทรกไว้ในหน้าเว็บเพจ ที่เราต้องการเก็บข้อมูลทางสถิติ
  • ความปลอดภัย
    ข้อมูลการวิเคราะห์เว็บไซต์ เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ มีระบบป้องกันการทำรายการของเราด้วยเทคโนโลยี Secure Socket Layer (SSL)  จึงช่วยป้องกันข้อมูลดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยรายงานข้อมูลของเราจะไม่รวมข้อมูลของผู้เข้าใช้เว็บไซต์

ภาพที่ 9 ตัวอย่างหน้าจอ Google Analytics

 

  1. Yahoo Web Analytics (web.analytics.yahoo.com) – ฟรี

ทาง ค่ายชื่อดังอย่าง Yahoo หลังจากได้ปล่อยให้ทาง Google คู่แข่งชั้นดีออกตัวเครื่องมือวิเคราะห์และวัดประสิทธิภาพเว็บไซต์มานาน วันนี้ Yahoo ก็ได้ออกระบบวิเคราะห์และวัดประสิทธิภาพเว็บไซต์ Web Analytic ออกมาเหมือนกัน โดยใช้ชื่อว่า Yahoo! Web Analytics ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลและวิเคราะห์สถิติของเว็บไซต์แบบเดียวกับ Google Analytics ซึ่งในเรื่องการใช้งานและส่วนติดต่อผู้ใช้นั้น Yahoo เน้นไปที่การอัพเดตข้อมูลที่รวดเร็วแบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจจะเป็นไม้ตายชนิดใหม่ที่สามารถเทียบชั้นได้กับ Google Analytics อย่างดีทีเดียว

จุดขายสำคัญของ Yahoo! Web Analytics คือความเร็วในการอัพเดตข้อมูลแบบเกือบเรียลไทม์ ซึ่งดีกว่ารอบ 8-12 ชม. ของ Google Analytics อีกอย่างคือให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลดิบทั้งหมดผ่านทาง API ด้วย เมื่อเทียบกับของGoogleที่แสดงเฉพาะข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ Yahoo! Web Analytics สามารถเขียนโปรแกรมวิเคราะห์สถิติเพิ่มเติมเองได้

ภาพที่ 10 ตัวอย่างหน้าจอ Yahoo Web Analytics

 

  1. Crazy Egg (crazyegg.com) – เสียค่าใช้จ่าย $9-$99/เดือน

Crazy Egg จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง heat maps และติดตามดูการเข้ามาเยี่ยมชมและกดคลิคของผู้เข้ามาเยือน ไม่ว่าจะเข้ามากดคลิคจากที่ใดก็ตาม หรือที่หน้าเพจใดก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของเว็บเพจของคุณ โดยดูจากปริมาณของผู้ที่ให้ความสนใจต่อหน้าเพจของคุณ ซึ่งเป็นการวัดเรตติ้งแบบหนึ่ง และทำให้คุณรู้ว่าจะต้องปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณอย่างไร? และให้ไอเดียการออกแบบเว็บไซต์ของคุณ การให้บริการ Crazy Egg นี้แม้ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายก็จริง แต่รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน     

ภาพที่ 11 ตัวอย่างหน้าจอ Crazy Egg

 

  1. Compete (compete.com) – ค่าบริการเปลี่ยนแปลงไปตามออพชั่นของคุณ

 Compete เป็นเครื่องมือเสริมที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นที่ยอมรับ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ปริมาณของกระแสการกดคลิค Compete จะให้ข้อมูลและข่าวกรองเกี่ยวกับสิ่งที่คู่แข่งของคุณกำลังดำเนินการอยู่ รวมทั้งผู้เข้ามาใช้งานหยุดที่เพจใดของคุณ และยังมีการนำเสนอฟรีที่รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณของกระแสการจราจร แต่ที่ Compete แตกต่างจากเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆที่เสียค่าบริการคือ ช่วยให้คุณสามารถติดตามดูว่า Keyword ใดที่ส่งผู้ใช้งานเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ และไปสู่คู่แข่งของคุณ     

ภาพที่ 12 ตัวอย่างหน้าจอ complete

  1. Google Website Optimizer (google.com/websiteoptimizer) –เครื่องมือประเภททดสอบ - ฟรี

เครื่องมือใช้งานฟรีอีกหนึ่งจาก Google ได้แก่ Website Optimizer เป็นบริการทดสอบที่มีความซับซ้อน แต่มีขีดความสามารถที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าส่วนใดของเว็บเพจที่ได้รับการกดคลิกมากที่สุดรวมทั้งได้รับความสนใจ และแปลเปลี่ยนเป็นการขายได้มากที่สุด  

Google Website Optimizer เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ Google มีบริการนี้ไว้สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ Adwords ของ Google

อย่างก็ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาในเดือนเมษายน Google ได้ประกาศว่า ผู้ที่มีบัญชีใช้งาน Google Analytics จะสามารถใช้บริการ Google Website Optimizer ได้ฟรี และประโยชน์ที่ Google Web Optimizer ที่คุณจะได้รับคือ

  • ช่วยเพิ่มอัตราการแปลงของเว็บไซต์
  • ลดปริมาณการตีกลับของผู้เข้าชม
  • เพิ่มเวลาที่ผู้เข้ามาเยือนใช้เวลาในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
  • เพิ่มความพึงพอใจของผู้เข้ามาเยี่ยมชม
  • เพิ่มประสิทธิและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเว็บไซต์

สรุป : Google Website Optimizer เป็นบริการทดสอบประสิทธิภาพของสื่อบนเว็บไซต์ โดยการเปรียบเทียบสื่อสองรูปแบบ (หรือมากกว่า) ว่าสื่อในรูปแบบใดได้รับการตอบสนองจากกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่ากัน ในทางการตลาด การทดสอบแบบนี้ไม่ใช่ของใหม่ การทดสอบดังกล่าวมีหลักการที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

  • การทดสอบแบบตัวแปรเดียว เราเรียกกันว่า A/B testing
  • การทดสอบหลายตัวแปร หรือ Multivariate testing

เนื่องจากการแปลงถือเป็นเรื่องสำคัญต่อการชี้วัดความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีหากใช้วิธีการทดสอบแบบตัวแปรเดียวคือ A/B ก่อนที่จะดำเนินการขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการออกแบบเว็บไซต์ (รายละเอียดของการทดสอบ A/B และอื่นๆยังไม่กล่าวถึงในที่นี้)  ตารางต่อไปนี้คือตัวอย่างผลลัพธ์จากการทดสอบ

A/B/C Split Test

PAGE A

PAGE B

PAGE C

Percent of traffic

34%

33%

33%

New sales

200

220

150

Change

N/A

10%

-25%

ตารางที่ 1 การทดสอบแบบตัวแปรเดียว

 

ภาพที่ 13 ตัวอย่างหน้าจอ Google web optimizer

  1. Optimizely (optimizely.com) – คิดค่าธรรมเนียมใช้งาน $19-$399/เดือน

เป็นบริการที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2011 Optimizely ใช้งานง่าย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูง เป็นเครื่องมือง่ายๆที่ช่วยในการปรับปรุงเว็บไซต์ผ่านการทดสอบด้วย A/B ในทางธุรกิจ คุณคุณสามารถสร้างการทดลองด้วย Visual Interface ที่ใช้งานง่ายกับเว็บไซต์ สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับบริการนี้ คือคุณไม่ต้องเขียนโปรแกรมใดๆเพิ่มเติม หรือมีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งที่จะใช้บริการนี้ เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายนั่นเอง    

ภาพที่ 14 ตัวอย่างหน้าจอ Optimizely

 

  1. Kissinsights from Kiss Metrics (kissinsights.com) – ค่าธรรมเนียมมีตั้งแต่ฟรีไปจนถึง $29/เดือน

เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่สุดที่คุณสามารถนำมาใช้งานได้ (ติดตั้งผ่าน Javascript เพียงครั้งเดียว) แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบบริการนี้ ได้แก่ การใช้งานที่เรียบง่าย และสามารถสร้างแบบฟอร์มตอบรับจากผู้เข้ามาเยือนด้วยตนเองได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับคำถามที่คุณมีต่อลูกค้าผ่านทาง dashboard ที่เรียบง่าย ส่วนที่ดีที่สุดของ Kissinsights คือ Feedback จากลูกค้าเป็นแบบเรียบง่ายและมีขนาดสั้น   

ภาพที่ 15 ตัวอย่างหน้าจอ Kissinsights

 

  1. 4Q by iPerceptions (4qsurvey.com) – ใช้งานฟรี

เป็นบริการฟรี 100% เป็นโซลูชั้นที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจข้อมูลออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจ และซึ้งต่อคำว่า “ทำไม” กับการเข้ามาเยือนเว็บไซต์ของผู้เยี่ยมเยือน หลักฐานที่ได้จาก 4Q จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่า ผู้เข้ามาเยือนทำอะไรกับเว็บไซต์ของคุณ การสำรวจเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของลูกค้าบนเว็บไซต์ของคุณ และเสนอให้มีการสำรวจระยะสั้นและเรียบง่ายที่จะตอบคำถาม 4 ข้อที่สำคัญที่คุณต้องการให้ลูกค้าตอบ

  • สิ่งที่ลูกค้าต้องการเข้ามาใช้เว็บไซต์ของเรา?
  • แล้วลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการมากน้อยเพียงใด?
  • หากไม่ได้ตามที่ต้องการ ให้เหตุผลว่าอย่างไร?
  • ผู้เข้ามาเยือนหรือลูกค้ามีความพึงพอใจในระดับใด?

ภาพที่ 16 หน้าจอบริการจาก 4Q

 

  1. ClickTale (clicktale.com) – จากฟรีสู่ค่าธรรมเนียมใช้งาน $990 (ค่าใช้จ่ายราย 3 เดือน)

เป็นบริการวิเคราะห์ลูกค้าเชิงปริมาณ โดย ClickTale จะบันทึกทุกอย่างที่ผู้เข้ามาเยือนได้ใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณ นับตั้งแต่การคลิคครั้งแรกไปจนถึงการคลิคครั้งสุดท้าย เป็นบริการที่ใช้ Meta statistics เพื่อจัดสร้าง heat maps และรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมการเข้ามาใช้งานเว็บของคุณ และดำเนินการวิเคราะห์การแปลงด้วยเครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐานที่ใช้กันอยู่  

ภาพที่ 17 ตัวอย่างหน้าจอ ClickTale

 

  1. Facebook Insights – ใช้งานฟรี

คือเครื่องมือที่ Facebook ให้มาพร้อมกับตัวของ "Page" ที่คุณสร้างขึ้นมาทันที เป็นเครื่องที่จะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมของคนที่ "ชอบ (Like)" หรือเข้ามาในหน้า "Page" ว่า เค้าเป็นใคร เข้ามาทำกิจกรรมอะไรบ้าง โดยสามารถเข้าเช็กข้อมูล Insight ได้ที่ http://www.facebook.com/insights ซึ่งเมื่อเข้ามาหน้านี้ก็จะเป็นหน้ารวมของ "Page" ท้ังหมดที่คุณได้สร้างไว้ และสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดความเคลื่อนไหวของกิจกรรมาต่างๆภายใน "Page" ของคุณได้ทันที โดย Facebook insights จะมีข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 

1.) ข้อมูลของผู้ใช้ (Users)

เราสามารถดูข้อมูลของผู้ใช้งาน (Active User) ที่เข้ามาใน "Page" ของคุณได้โดยแบ่งเป็นรายวัน และยังสามารถจำนวนคนที่ "ชอบ (Like)" ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ (New Likes) ในแต่ละวัน รวมถึงยังดูได้ว่า มีกี่คนที่ "ยกเลิก (Remove Likes)" ในแต่ละวันได้เช่นกัน ส่วนนี้สามารถดูว่าหน้าของเราได้รับความนิยมมากได้ระดับไหน?

รวมถึงยังดูข้อมูลของผู้ที่ชื่นชอบหน้าของเราได้ (Demographic) โดยสามารถดู เพศ, ช่วงอายุ, ประเทศ-เมือง และภาษาที่ใช้ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะทำให้เรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย (Target) ของเราเป็นใคร และอยู่ที่ไหน

ภาพที่ 18 แสดงหน้าจอ Facebook Insights

2.) ข้อมูลการเข้ามามีส่วนร่วม (Insights)

คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่คุณนำไปลงประกาศในหน้า "Page" มีคน "ชอบ (Like)" ติ-ชม (Comment) หรือ "ยกเลิก (Unscribes)" ซึ่งจะเป็นตัววัดว่า ข้อมูลที่คุณลงไปในหน้าเพจได้ผลตอบรับมากน้อยแค่ไหนจากข้อมูลในส่วนนี้  

คุณสามารถตรวจสอบว่ามีคนกี่คนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ในหน้าเพจของคุณ เช่น เข้ามา "ตอบ (mentions)", "ลงประกาศพูดคุย (Disscussion Posts)", "รีวิว (Reivew)", "ลงประกาศบนหน้า (Wall Post)" หรือแม้แต่การลงข้อมูลในรูปแบบ "วีดีโอ (Video)" ซึ่งหากข้อมูลมีน้อย นั้นหมายถึงจำนวนคนที่เข้ามา ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับหน้า "Page" ของเราเท่าไร แต่หากมีจำนวนสูง นั้นหมายถึงคนที่เข้ามา มีความสนใจในหน้า "Page" ของเราเป็นจำนวนมาก

  1. Twitalyzer (twitalyzer.com) – บริการฟรี

เป็นแอพพลิเคชั่นที่สมบูรณ์อีกแบบหนึ่งที่ใช้เพื่อตรวจวัด ผลกระทบ การมีส่วนร่วม และอิทธิพลต่อการใช้งานบน Twitter เครื่องมือ Twitalyzer เป็น dashboard ที่ใช้ข้อมูลชนิดฟรีใช้งาน และมีส่วนที่คล้ายคลึงกับ Facebook Insights เครื่องมือ Twitalyzer จะช่วยให้คุณมีมุมมองที่สูงขึ้นจากผลกระทบของบัญชีใช้งาน Twitter ของคุณที่มีต่อลูกค้า บนพื้นฐานการใช้ข้อมูลผู้ติดตาม ระดับของการ Tweet  (เป็นการบ่งบอกว่ากำลังทำอะไรอยู่)

ภาพที่ 19 แสดงตัวอย่างหน้าจอ Twitalyzer

 

ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์เว็บอีกมากมายที่ไม่สามารถกล่าวถึงทั้งหมดในบทความนี้ เช่น Piwik Feedburner Percent Mobile Adwords และอื่นๆอีกมาก บทความนี้ เพียงแต่แนะนำให้รู้จักเครื่องมือการวิเคราะห์เว็บมากขึ้นเท่านั้น และข้อมูลบางส่วนเรียบเรียงมาจากเว็บไซต์หลายแห่งและขอขอบพระคุณในข้อมูลจากเว็บต่างๆเหล่านั้น      

Additional Info

  • event date: 04:00 AM /10TH SEPT /LOREM IPSUM
  • Descrption: Proin gravida nibh vel velit auctor aliqProin gravida nibh vel velit
Read 16673 times Last modified on วันพุธ, 17 พฤษภาคม 2560 05:50

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.