Professional Networking for Network Engineer

ยกระดับความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายของท่าน: หลักสูตรออกแบบและจัดการ LAN และ Firewall ขั้นสูง

ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพด้านการออกแบบ LAN และ Firewall ด้วยการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างเครือข่าย LAN ที่ปลอดภัยสำหรับองค์กร ไปจนถึงการจัดการ Firewall ขั้นสูงอย่าง FortiGate ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความมั่นใจในงานด้าน IT ของท่าน

  • ออกแบบ LAN ครบวงจร: ตั้งแต่เครือข่ายขนาดเล็กไปจนถึงโครงสร้างแบบ Multi-Tier สำหรับองค์กรขนาดใหญ่
  • ภาคปฏิบัติที่สมจริง : 34+ Labs ครอบคลุมการตั้งค่า VLAN, การติดตั้ง Routing เพื่อเชื่อมต่อระหว่าง VLAN ที่ติดตั้งบน Switch จากค่ายต่างๆ เช่น Cisco, HP, Aruba, Mikrotik การติดตั้ง  WiFi-6 และ WiFi-7 และเทคนิคการติดตั้ง Switches ขั้นสูง
  • ทักษะ Firewall ขั้นสูง: ตั้งค่าและรักษาความปลอดภัย FortiGate Firewall รวมถึง SSL VPN, Security Policies  และการวิเคราะห์ Log
  • การจัดการ Routing และ Services: เรียนรู้ Static และ Dynamic Routing (RIP/OSPF), NAT,     SD-WAN และ IPsec VPN
  • การแก้ปัญหาเครือข่ายอย่างมืออาชีพ: วิเคราะห์และแก้ไขปัญหา Layer 2/3, TCP/IP และการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายไร้สาย
  • สถานการณ์สมจริง: Labs ออกแบบมาเพื่อรองรับความท้าทายในโลกการทำงานจริง
  • ครอบคลุมครบถ้วน: รองรับทั้งระบบเครือข่ายของ Cisco และ FortiGate
  • ทักษะล้ำหน้า: อัปเดตความรู้ด้านเทคโนโลยี WiFi-6/7 และ SD-WAN ให้ทันสมัย
  • เน้นการเรียนภาคปฎิบัติ และปฎิบัติในรูปแบบของ Lab
  • แนวทางปฎิบัติ ที่ใช้อุปกรณ์จากค่ายผู้ผลิตต่างๆและ Software ในการพิสูจน์ทฤษฎีให้เห็นของจริง ด้วยตัวท่านเอง
  • เน้นการทำ Lab ที่เป็น Solution ที่ท่านสามารถติดตั้งเองได้ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้กับอุปกรณ์จากผลิตทุกค่าย และยังสามารถนำเอาทักษะไปใช้ได้ในที่ทำงานอย่างแน่นอน
  • ใช้อุปกรณ์ของจริง ทดลองจริง ไม่ใช้ Simulator

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร:

  1. เชี่ยวชาญด้านการตั้งค่า การจัดการ และการแก้ไขปัญหาอุปกรณ์เครือข่าย เช่น สวิตช์ เราเตอร์ อุปกรณ์กระจายสัญญาณไร้สาย (Wireless Access Points) อุปกรณ์ Firewall และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งในรูปแบบ Lease Line การติดตั้ง SDWAN ไปจนถึงการติดตั้ง VPN และ Internet load balancing
  2. ได้รับการพัฒนาทักษะขั้นสูงในการวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเครือข่าย
  3. เรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความพร้อมใช้งาน ความสามารถในการขยายขนาดเครือข่าย และความปลอดภัยของเครือข่ายในองค์กร
  4. ได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้งานเครื่องมือบริหารจัดการและติดตามเครือข่ายในระดับองค์กร
  • ผู้ดูแลระบบเครือข่ายในองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่
  • ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัยของเครือข่าย
  • ช่างเทคนิคที่รับผิดชอบการตั้งค่าและดูแลอุปกรณ์เครือข่าย
  • Overview of LAN technologies and architectures.
  • Components of LAN: Switches, routers, access points, and cabling.
  • Flat and star topology configurations.
  • Selecting cost-effective devices for small-scale networks.
  • Implementing basic security and redundancy measures.
  • Two-tier architecture: Access and distribution layers.
  • Configuring VLANs for department segmentation.
  • Wireless network design with controller-based access points.
  • Multi-tier architecture: Core, distribution, and access layers.
  • High-availability designs with redundancy and failover.
  • Implementing advanced VLANs and inter-VLAN routing.
  • Integrating SD-WAN for efficient traffic management.
  • Understanding switch boot process and operating modes.
  • Basic switch configuration: Hostname, passwords, and IP settings.
  • Hands-on Lab 1: Configure and managing VLANs.
  • VLAN trunking and inter-VLAN routing (Router-on-a-Stick).
  • Hands-on Lab 2 : Configure VLANs and trunking on Cisco switches.
  • Hands-on Lab 3 : Configure and connect VLANs Trunk across Cisco, HP, and Aruba Switches.
  • Configuring Layer 3 interfaces and SVIs.
  • Static routing and dynamic routing (OSPF) on Layer 3 switches.
  • Hands-on Lab 4 : Set up inter-VLAN routing with Layer 3 switches.
  • Hands-on Lab 5: Configure Mikrotik Switch
  • Basics of STP, RSTP, and MSTP.
  • Hands-on Lab 6 : Configuring RSTP
  • Hands-on Lab 7 : Configuring root bridge priority and port roles.
  • Hands-on Lab 8 : Optimize STP to avoid loops and improve performance.
  • Enabling port security to prevent unauthorized access.
  • Configuring 802.1X authentication.
  • Hands-on Lab 9 : Implement port security and monitor access violations.
  • Hands-on Lab 10 : Configure Link Aggregation with EtherChannel (LACP).
  • Hands-on Lab 11 : Configure Link Aggregation to Connect Between Cisco and Aruba Switch
  • QoS configuration for prioritizing traffic.
  • Hands-on Lab 12 : Configure Layer 3 EtherChannel on Cisco switches.
  • Hands-on Lab 13 : Configure Q-in-Q on Cisco and Mikrotik Switches.
  • Hands-on Lab 14 : Configure Link Aggregation on Mikrotik Switches.
  • Hands-on Lab 15 : Install Port Isolation on Mikrotik Switches.
  • Hands-on Lab 16 : Set up PoE options for commercial and industrial switches.
  • High availability with redundancy protocols (HSRP, VRRP)
  • Tools and techniques for troubleshooting Cisco and HP Aruba switches.
  • Using Troubleshooting commands: show, debug, and logs.
  • Hands-on Lab 17 : Diagnose and resolve common switching issues.
  • IEEE 802.11 Standards (802.11n, 802.11ac, 802.11ax).
    • Wireless LAN infrastructure devices.
    • Design and install wireless antennas.
    • Wireless LAN site surveys using Acrylic WiFi.
    • Hands-on Lab 18 : Configure WiFi – 6 Wireless Router.
    • Hands-on Lab 19 : Configure Wi-Fi – 7 Wireless Router
    • Conduct throughput tests for performance, delay, and loss.
    • Troubleshoot Wireless LAN issues and ensure security.
  • Understand TCP/IP Protocols.
  • Classful and Classless IP Addressing.
  • Calculate and configure Subnetting.
  • Use Wireshark to analyze TCP/IP protocols.
  • Basic router setup.
  • Hands-on Lab 20 : Configure Static and Default Static routes.
  • Hands-on Lab 21 : Implement Dynamic Routing (RIP/OSPF) on Router.
  • Hands-on Lab 22 : Configure OSPF on Layer 3 Switch
  • Introduction to Policy-Based Routing.
  • Hands-on Lab 23 : Configure NAT Services on Cisco Routers.
  • Hands-on Lab 24 : Configure Router Port Forwarding.
  • Hands-on Lab 25 : Install DHCP Servers and Agents on Cisco Layer 3 Switch and Router
  • Configure DNS, NTP Services, and SNMP.
  • Enable Telnet/Secure Shell.
  • Hands-on Lab 26 : Configure Dual Internet Connectivity with Load Balancing
  • Hands-on Lab 27 : Configure Internet IPSec VPN
  • Hands-on Lab 28 : Configure Internet SDWAN
  • Troubleshoot Wireless Network issues.
  • Diagnose Layer 2 and Layer 3 Switch problems.
  • Resolve Router and Network Services issues.
  • Address TCP/IP connection issues.
  • Use software tools to troubleshoot network performance.
  • Initial setup and configuration.
  • Hands-on Lab 29 : Configure management IP, access credentials, and basic settings.
  • Creating and managing security policies.
  • Understanding policy ordering and evaluation.
  • Hands-on Lab 30 : Configure inbound and outbound traffic policies with logging.
  • Hands-on Lab 31 : Configuring VLANs on FortiGate.
  • Routing between VLANs.
  • Hands-on Lab 32 : Create and test VLANs and configure inter-VLAN policies.
  • Configuring captive portals for guest users.
  • Hands-on Lab 33 : Implement user authentication and captive portal access.
  • Hands-on Lab 34 : Configure Remote Access SSL VPN
  • Log analysis for identifying network anomalies.
1.  เหตุใดหลักสูตรนี้จึงน่าเรียน?

ตอบ : เพราะเป็นหลักสูตรเดียวที่เพียบพร้อมทุกอย่างสำหรับ ท่านที่จะย่างเข้าสู่สายงานด้านระบบเครือข่าย และเป็นหลักสูตรที่มีทุกอย่างตั้งแต่ การออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์เครือข่าย Switch ของค่ายผู้ผลิตที่หลากหลาย (Cisco HP Aruba Mikrotik) ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงระดับใหญ่ สำหรับองค์กรธุรกิจและโรงงานทั่วไป การติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายเชื่อมต่อสาขาผ่าน WAN และ Internet ในรูปแบบต่าง การติดตั้ง Load Balancing เพื่อประสิทธิภาพการเชื่อมต่อทั้งแบบ LAN WAN และ Internet  การติดตั้ง Firewall เพื่อป้องกันปัญหาความปลอดภัยจาก Internet การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ปัญหาเครือข่ายหลายแบบ และท่านยังได้เรียนวิธีการออกแบบวางแผนติดตั้ง Wi-Fi ตั้งแต่ Wi-Fi ไปจนถึง Wi-Fi 7

2.  อุปกรณ์การเรียนการสอนมีอะไรบ้าง?

ตอบ : หลักสูตรนี้ใช้อุปกรณ์ Switch จาก Cisco มีตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ รวมทั้ง Switch จาก HP Aruba และ MikroTik รวมทั้ง Industrial Switch และ Router จาก Cisco และอุปกรณ์ Firewall จาก Fortigate ตลอดจนอุปกรณ์   Wi-Fi จากหลากหลายค่ายผู้ผลิตมีตั้งแต่ Wi-Fi 5, Wi-Fi6, และ Wi-Fi 7 ส่วน Software ที่ใช้ประกอบการเรียนมาจาก Open source สำหรับบริหารจัดการเครือข่ายทั้งระบบมีสาย และไร้สาย และดูแลแจ้งเตือนระบบความปลอดภัยต่างๆ     

3.  ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง?

ตอบ :  ความรู้พื้นฐานการใช้งาน Windows 10 หรือ 11 ทั่วไป

4.  หลักสูตรนี้มีภาคปฎิบัติหรือไม่?

ตอบ : หลักสูตรนี้มีภาคปฎิบัติมากกว่า 34 ภาคปฎิบัติ ซึ่งมากพอที่จะช่วยสร้างทักษะในการติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์เครือข่ายในหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ เรายังเน้นภาคทฤษฎีที่เป็นเนื้อหาเข้มข้น แต่เป็นแบบประยุกต์ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงในที่ทำงานหรือภาคสนาม

5.  รูปแบบการเรียนการสอนเป็นอย่างไร?

ตอบ : เน้นภาคทฤษฎีที่เข้มข้น และภาคปฎิบัติ ทดลองจากอุปกรณ์ของจริงจากหลากหลายผู้ผลิต อาจารย์ผู้สอน จะใช้ประสบการณ์จริง และความคิดที่สร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้รับการอบรมสามารถนำไปใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด อาจารย์ผู้สอนจะให้การบรรยาย การอธิบายขณะปฎิบัติการทดลอง และให้คำแนะนำเชิงที่ปรึกษา เพื่อให้มีการประยุกต์ใช้งานอุปกรณ์ที่มาจากหลากหลายผู้ผลิต รวมทั้งการนำไปใช้งาน และการแก้ไขปัญหา

6.  เรียนจบหลักสูตรนี้แล้ว สามารถทำอะไรได้บ้าง?

ตอบ : 1.  ท่านจะมีความพร้อมเพื่อเข้าสู่สายงานด้าน Network ได้อย่างเต็มที่ หรือต่อยอดในงานที่ท่านทำอยู่แล้ว  2. ท่านจะสามารถคุมงานหรือดูแลระบบเครือข่ายได้ในระดับที่เป็นที่ยอมรับ  3. ท่านสามารถรับงานการดูแล และรับติดตั้งระบบเครือข่ายสำหรับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางได้  4. ท่านจะสามารถสื่อสารและทำความเข้าใจกับ Third Party Vendor ที่ดูแลระบบของท่านได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ

7.  ผู้ผ่านการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับงานประเภทใดได้บ้าง?

ตอบ:  1.  งานออกแบบระบบเครือข่าย ทั้งที่เป็นแบบมีสายสัญญาณและไร้สาย  2.  ติดตั้งอุปกรณ์และทดสอบใช้งานสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายแบบมีสายสัญญาณและไร้สาย  3.  ใช้เครื่องมือสำหรับการตรวจสอบการทำงานและสถานะของเครือข่าย  4. งานประเภท Troubleshooting ปัญหาระบบเครือข่ายแบบมีสายสัญญาณและ Wi-Fi   5.  งานติดตั้งและดูแลอุปกรณ์ Firewall รวมทั้งการอ่านและวิเคราะห์ Log  6. สามารถต่อยอดงานที่มีอยู่แล้ว

8.   หลักสูตรนี้มีการพูดถึงมาตรฐานการออกแบบล่าสุด เช่น ANSI/TIA-568.3-D หรือ ISO/IEC 11801-1 ไหม?

ตอบ: มีการพูดถึงมาตรฐานเหล่านี้ รวมทั้งตัวอย่างการออกแบบติดตั้งในชีวิตจริง

9.  หากทำงานกับอุปกรณ์ของแบรนด์อื่น เช่น Huawei Juniper หรือ CommScope จะสามารถนำความรู้นี้ไปปรับใช้ได้หรือไม่?

ตอบ : ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากภาคทฤษฎีและปฎิบัติที่เรียนในหลักสูตรนี้ เน้นลำดับวิธีการติดตั้งอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเป็นวิธีการมาตรฐานที่สามารถนำไปใช้ได้กับ Vendor ทุกแห่ง เนื่องจากใช้ขั้นตอนและวิธีการที่เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันบ้างตรงที่เป็นคำสั่ง หรือตำแหน่งของ Menu การตั้งค่า

10.  ผู้เข้าอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตรที่รับรองอะไรบ้าง? และ ใบประกาศนียบัตรนี้เป็นที่ยอมรับในวงการหรือองค์กรใดบ้าง?

ตอบ : เนื่องจากเราเป็นสถาบันการอบรมในด้านนี้มากว่า 30 ปี เป็นที่รู้จักในวงการไอที และองค์กรธุรกิจเกือบทุกแห่งในประเทศ และชื่อเสียงของอาจารย์ผู้สอนเป็นที่ประจักษ์มายาวนาน ใบประกาศจากสถาบันแห่งนี้ มีหลายท่านได้กล่าวว่า สามารถนำไปประกอบการศึกษาต่อในต่างประเทศ และมีผู้ใช้ใบประกาศนี้เพื่อเข้าประมูลงาน รวมทั้งใช้สมัครงานได้

11.  มีตัวเลือกสำหรับอบรมออนไลน์หรือไม่ หากไม่สามารถเข้าร่วมในสถานที่ได้?

ตอบ : ท่านสามารถอบรมผ่านออนไลน์ได้ แต่ท่านอาจไม่ได้รับความสะดวกจากการดำเนินการในภาคปฎิบัติทดลอง ที่ต้องใช้อุปกรณ์ของจริง